วันศุกร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2553

การจะมีคู่แท้สักคน... จึงต้องใช้เวลาในการแสวงหาเสมอ



หากรักใคร ขอให้รัก เพียงแค่ครึ่ง
อีกครึ่งหนึ่ง ของหัวใจ เก็บไว้ฝัน
หากวันใด ถูกสลัด ตัดสัมพันธ์
เอาครึ่งนั้น มาทดแทน แทนที่ใจ





...เพราะคำคำเดียวสั้นๆ ที่เรียกขานว่า "รัก" ไม่ใช่หรือที่ทำให้เราเกิดมาในโลกใบนี้อย่างมีคุณค่า เป็นโซ่ทองคล้องชีวิตคู่ของบุพการีของเราให้ยั่งยืนยาวมาจนทุกวันนี้

...เพราะคำว่า "รัก" ไม่ใช่หรือที่ทำให้มนุษย์เราหยุดการรบราฆ่าฟัน หันมาช่วยเหลือเกื้อกูลกันในยามที่ ทุกฝ่ายต้องร่วมแรงร่วมใจฝ่ามหันตภัยทั้งหลาย ไม่ว่าจะเกิดจากธรรมชาติหรือเกิดจากน้ำมือของมนุษย์ มีคำกล่าวมานานนักหนาแล้วว่า...

... โลกของเราใบนี้ยังคงหมุนอยู่ได้เพราะพลังที่เกิดจากความรัก และที่ใดที่ปราศจากความรักแล้ว... ความเสื่อมสลายก็จะต้องบังเกิดขึ้น

มีคนกล่าวว่า "รักแท้" เมื่อเกิดขึ้นแล้วย่อมจะดับได้ยาก และมีแต่จะเพิ่มพูนความรักให้แน่นแฟ้น ยืนยงต่อไปเรื่อยๆ ตราบ นานเท่านาน
เป็น...ปรัชญาของความรักในอดีต ซึ่งน่าจะดำรงคงอยู่ และถ้าจะสูญหายไปบ้าง ก็น่าจะหวนกลับมาจรรโลงสังคมและโลกของเราใบนี้ให้น่าอยู่ยิ่งขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ปีเก่าผ่านไป...

ปีใหม่ที่ผ่านมานี้ เราได้เห็นความทุกข์ยากลำบาก การพลัดพรากจากผู้เป็นที่รัก จากภัยของธรรมชาติที่มาโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว ...ขณะเดียวกัน เราก็ได้เห็นน้ำใจของผู้คนที่หยิบยื่นความช่วยเหลือแก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากเหล่านั้น ด้วยความรัก แบ่งปันน้ำใจ แบ่งปันทรัพย์สินที่มีอยู่ แบ่งปันเวลา แรงกายแรงใจ เพื่อที่จะซับน้ำตาแห่งความทุกข์ของพวกเขาให้บรรเทาเบาบางลงบ้าง... แม้จะเพียงน้อยนิด พลังแห่งน้ำใจเหล่านั้นแหละ
...เป็นพลังของความรัก และพลังของความรักนั้น มักจะเกิดขึ้นในสภาวะแห่งความทุกข์เสมอ ในสภาวการณ์ดังกล่าวทุกคนจะร่วมแรงร่วมใจให้ความรักความสมัครสมานสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวกัน ลืมความบาดหมาง ความคับข้องใจกันและกัน ให้อภัยกัน...เสมอ เพราะมักจะมีคำกล่าวว่า

ความรัก...คือการให้อภัย การให้อภัยนั้น อาจจะเป็นบริบทแรกของความรัก... และบริบทสุดท้ายของความรักก็ได้ ใครจะรู้ แม้ว่าในยุคนี้ คนเราจะแล้งน้ำใจ...และเห็นแก่ตัวกันมากขึ้นทกขณะ แต่คนที่ยังคงมีความรักและรู้จักการให้อภัย...จะมีความสุขในบั้นปลายชีวิตเสมอๆ ...และแม้ว่า ความรักจะไม่ค่อยยืนยงเท่าไร ในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงในยุคกระแสแห่งการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น ในยุคที่ต้องเอาตัวรอดจากสภาพเศรษฐกิจสังคมที่เปลี่ยนไป จนยากที่จะก้าวตามทันการเปลี่ยนแปลง ถ้าไม่รู้จักการปรับตัวให้เข้ากับสังคมยุคใหม่
การจะมีคู่แท้สักคน... จึงต้องใช้เวลาในการแสวงหาเสมอ!! และจำไว้ว่า ถ้าพบแล้วอย่าปล่อยให้ผ่านไป... เพราะอาจจะไม่มีผ่านมาใหม่อีก คู่ของคนเรานั้น มีทั้งคู่กรรม...และคู่บุญ และบางคนก็เป็นทั้งคู่บุญคู่กรรมด้วยกัน วัฏจักรของคู่ที่เวียนว่ายตายเกิดมาในชีวิตของคนเรานั้น มักจะมีคู่บุญและคู่กรรมสลับกัน เหมือนที่เขาว่าไว้ว่า ชั่วเจ็ดทีดีเจ็ดหนนั่นแหละ ใครที่กำลังทุกข์อยู่ก็ขอให้รู้ว่า เมื่อเกิดความทุกข์ถึงที่สุดแล้ว ในท้ายที่สุดถ้ายังคงมีกำลังใจที่จะดำรงคงอยู่ ความสุขก็จะกลับมาเป็นรางวัลชีวิต หลายต่อหลายคนเศร้าโศก...

เมื่อคนรักคู่ครองที่อยู่กันมานานจะต้องจากไป ถ้าหัดคิดบ้างว่า... คู่กรรมกำลังจะจากไปแล้ว คู่บุญกำลังจะมา ความสุขในชีวิตก็จะบังเกิด พลังอำนาจของความคิดในทางบวกนั้น เป็นพลังอำนาจที่ปฏิเสธไม่ได้ และมักจะเป็นจริงตามที่คิดเสมอๆ แม้ว่าบางครั้งอาจจะต้องรอนานจนเกือบจะรอไม่ได้ก็ตาม ...สวรรค์ไม่ทำร้ายคนที่คิดดี ทำดี ตลอดไปหรอก!! ในท้ายที่สุด บุญกุศล และความดีที่ทำก็จะสามารถเอาชนะความทุกข์ภายในใจได้ และเมื่อนั้น ความรักก็จะหวนกลับมาใหม่ ส่วนใครที่อยู่ครองชีวิตกับคนที่คิดว่า เป็นคู่บุญ ก็ควรจะร่วมกันทำบุญกุศลร่วมกันเป็นประจำ เพื่อที่คู่บุญจะได้ไม่จากไป... และคู่กรรมที่จะนำความทุกข์ยากจะไม่กลับมา เคยอ่านหนังสือที่มีชื่อว่า

...เราจะข้ามเวลามาพบกัน ซึ่งเรื่องราวกล่าวว่า คนเรานั้นอาจมีอยู่หลายชาติภพ ถ้าเชื่อในเรื่องของการเวียนว่ายตายเกิด ทีนี้ในแต่ละชาติภพนั้น ก็น่าจะมีเนื้อคู่อยู่อย่างน้อย 1 คน ไม่ว่าจะเป็นคู่บุญ หรือคู่กรรมก็ตาม ...บางคู่ ก็ทำบุญร่วมกันขอตามมาเกิด ในชาติภพต่อไปเพื่อที่จะรับผลบุญที่กระทำร่วมกัน ...บางคู่ก็ทำกรรมร่วมกันมา ก็อาจจะอาฆาต พยาบาทตามมาทำลายล้างกันในชาตินี้ แล้วแต่จะตั้งจิตอธิษฐานในทางที่ดี...หรือทางที่ร้าย และในบางชาติภพที่เนื้อคู่ ไม่ว่า คู่บุญ หรือคู่กรรม ตามมาพบกันมากกว่า 1 คนในชาติภพนั้น เรื่องราวความรัก ความหวัง ความผิดหวัง ความพลัดพราก...และอะไรต่อมิอะไรที่อยากให้เกิด และไม่อยากให้เกิดก็อาจจะเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติ ซึ่งนอกเหนืออำนาจของมนุษย์ตัวเล็กๆ ที่จะไปจัดกา รได้
...ต้องปล่อยให้เป็นไปตามวัฏจักร ตามธรรมชาติของความรักความหลงของมวลมนุษยชาติ ได้แต่แนะนำให้ตั้งสติเอาไว้ เวลาที่คู่กรรมจะจากไป...

ให้เขาหรือเธอไปพบกับคู่กรรมของพวกเขา จะได้ไม่กลับมาทำความทุกข์ยากลำบากใจให้กับเราอีกต่อไป
...และภาวนาขอให้คู่บุญของตัวเรา จงรีบมาแสดงตัว นั่นเป็นแนวคิดที่ควรคิด...ในเวลาแห่งการพลัดพราก ว่าก่อนอื่นมีคนคนหนึ่งที่รอความรักอยู่เสมอ และคนคนนั้นก็คือ ตัวของเราเอง ในเมื่อตัวของเราเกิดจากความรักของพ่อแม่ ซึ่งได้ให้กำเนิดเรามา เราจึงต้องรักษาตัวของเรา ซึ่งเป็นที่รักของพ่อแม่ เอาไว้ทดแทนคุณของบิดามารดา ก่อนที่จะจากโลกนี้ไปอย่างสงบสุข เหมือนที่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ฝากกลอนเอาไว้ให้ช่วยเขียนเตือนสติของผู้ที่จะมีความรักทั้งหลายว่า...


ยามค่ำคืนแสนโดดเดี่ยว
อยู่คนเดียวแสนเงียบเหงา
มีหมาเป็นเพื่อนเรา
มานั่งเฝ้าค่อยอุ่นใจ

———————

นั่งมองเวลาที่ผ่านไป
เสียงของหัวใจมันบอกว่าเหงา
ยิ่งได้คิดถึงเรื่องของเรา
มันก็ยิ่งเหงาจนจับใจ



ความคิดถึง



หลายครั้งที่ชีวิตสับสนมองไม่เห็นแม้แต่หนทาง
ฉันเองไม่รู้ว่าวินาทีนี้ฉันจะเป็นอยู่อย่างไร
สภาพแวดล้อมมันชั่งกดดันฉันเหลือเกิน
จึงทำให้การตัดสินใจไม่ค่อยมั่นคง
หลายครั้งที่เจอปัญหาหนักอื้อ
คลื่นมรสุมกำลังมุ่งสู่จิตใจของคนๆหนึ่ง

ชั่งปวดร้าว เจ็บปวดเเสนจะทนไหว
ในบางครั้งฉันเองก็รู้สึกไม่ดี ผิดหวัง
ที่บางครั้งทำให้คนที่เรารักเสียใจ
ฉันเคยทำสิ่งที่ผิดผลาดมานับไม่ถ้วน
ทำให้คนๆหนึ่งต้องเสียน้ำตาเพราะการกระทำของเราเอง

ตั้งแต่ฉันได้รู้จักกับคนๆนี้
ซึ่งเป็นคนที่ฉันรักและเขาก็รักฉัน
ไม่มีใครเลยที่จะดีกับเราได้เท่านี้
ทุกครั้งที่ทำผลาด ทุกครั้งที่เสียใจ
ทุกครั้งที่ทุกข์ท้อ และหลายๆครั้งที่ไม่เหลืออะไรเลย

เมื่อมองย้อนกลับไป
ฉันเห็นคนๆหนึ่งที่ส่งยิ้มมาให้
ความห่วงใยที่มอบผ่านกายสัมผัส
ทุกอย่างนี้มันชั่งอบอุ่นเหลือเกิน
เชื่อไหมปัญหาที่พอเจอมันค่อยๆเลือนไป

คนๆนี้ได้สอนให้ฉันรู้จักแก้ปัญหา
สอนให้ฉันมองปัญหาเปลี่ยนเป็นปัญญา
ไม่ว่าชีวิตเราจะเจออะไรมาก็ตาม
ขอเพียงแค่ กำลังใจ

กำลังใจนั้นสำคัญนะ
ไม่ต้องไปหาจากที่ไหนหรอก
มีอยู่ที่ตัวเรา และคนรอบข้างเรา
ที่พร้อมจะเข้าใจและให้อภัยแก่เรา
ทุกวันนี้ฉันมีความสุขที่มีเขาคนนั้น
มีจุดมุ่งหมายในชีวิต
อุปสรรค์และความผิดพลาดเป็นครูสอนเราได้ดีเลยละ

ปัจจุบันที่เป็นฉันมาได้ คงขาดไม่ได้หากไม่มีคนที่ให้กำลังใจ
ให้ความรักซึ่งค่อยๆฝูมฝักมาเรื่อยๆจนกลายเป็นความห่วงใย
คนๆนั้นคือ คุณแม่ของฉันเอง
ถ้าวันนั้นไม่มีแม่ปัจจุบัญก็คงไม่มีเรา

เห็นไหมว่าคนที่รักเราที่สุดให้ไดด้แทบทุกอย่างกับเรา
ไม่มีใครที่ไหนเลยนอกจาก พ่อแม่ ครอบครัวที่รักของเราเอง

เกี่ยวกับฉันผู้เขียน



นางสาวหทัยชนก มูลดับ

เนื้อเพลง กำลังใจ

Intro / D / Bm / G / A / D / D /

D Bm A D
ในยามที่ท้อแท้ ขอเพียงแค่คนหนึ่ง จะคิดถึง และคอยห่วงใย
Bm D A G D D
ในยามที่ชีวิต หม่นหมองร้องไห้ ขอเพียงมีใคร ปลอบใจ สักคน ..
D Bm A D
ในวันที่โลกร้าง ความหวังให้วาด มันขาดมันหาย ใคร จะช่วยเติม
Bm D A G D D
เพิ่มพลังใจ ให้ฉันได้เริ่ม ต่อสู้อีกครั้ง บนหนทางไกล ..

Bm G A D Bm D
กำลังใจ จากใครหนอ ขอเป็นทาน ให้ฝันให้ใฝ่ ให้ชีวิต ได้มีแรงใจ
A G Bm
ให้ดวงใจ ลุกโชนความหวัง
Bm G A D
กำลังใจ จากใครหนอ ขอเป็นทาน ให้ฉันได้ไหม
Bm D A G A D
ดั่งหยาดฝน บนฝากฟ้าไกล ที่หยาดริน สู่พื้น ดินแห้งผาก
Instru / D / Bm / A / D / Bm / D / A / D / G A / D /

Bm G A D Bm D
กำลังใจ จากใครหนอ ขอเป็นทาน ให้ฝันให้ใฝ่ ให้ชีวิต ได้มีแรงใจ
A G Bm
ให้ดวงใจ ลุกโชนความหวัง
Bm G A D
กำลังใจ จากใครหนอ ขอเป็นทาน ให้ฉันได้ไหม
Bm D A G A D
ดั่งหยาดฝน บนฝากฟ้าไกล ที่หยาดริน สู่พื้น ดินแห้งผาก




เรียบรียงโดย powerdome
เนื้อเพลงจาก ท่าน dna
คอร์ดจาก ท่าน +++